งานเกรดมิลเลอร์(MIRROR)หรืองานเอส มีความหมายในภาษาอังกฤษว่า 'กระจก' ดังนั้นงานมิลเลอร์จึงเทียบได้ว่าเหมือนส่องออกมาจากของแท้ คือเหมือนทุกอย่าง ไม่มีข้อแตกต่าง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราไม่สามารถที่จะหางานที่มีความเหมือนของแท้เลย 100% ได้แน่นอน แต่เราจะเรียกงานมิลเลอร์ว่าเป็นงานที่มองด้วยตาผ่านๆ แล้ว ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นของแท้หรือของก๊อป งานมิลเลอร์จะต้องนำของแท้มาเทียบเท่านั้น จึงจะสามารถมองเห็นความแตกต่างได้ งานมิลเลอร์จะแตกต่างกับงานพรีเมื่ยมที่ความหนาของหนัง สาย ข้อต่อ หรืออะหลั่ยต่างๆ ของตัวกระเป๋าค่ะ ขึ้นอยู่กับงานในแต่ละล็อตเนื่องจากแต่ละล็อตมาไม่เหมือนกัน บางครั้งงานพรีเมื่ยมก็สามารถเทียบเท่ากับงานมิลเลอร์ได้ก็มีค่ะ ขึ้นอยู่กับงานของแต่ละโรงงานที่ผลิตด้วยค่ะ แต่งานมิลเลอร์จะมาพร้อมถุงผ้า การ์ดการันตี ใบเสร็จ ซอง ถุงกระดาษ แทบทุกรุ่นค่ะ และที่สำคัญงานมิลเลอร์จะทำจากหนังแท้ทั้งใบหรือใช้วัสดุชนิดเดียวกับที่ของแท้ใช้ค่ะ
งานเกรดท๊อปมิลเลอร์หรืองาน Hi End คืองานที่แกะแบบออกมาจากของแท้ทุกอณู แทบจะไม่มีผิดเพี้ยน ราคาก็จะสูงกว่าเกรดมิลเลอร์อยู่พอสมควรเลยค่ะ แต่เกรดนี้จะมีไม่ทุกแบรนด์หรอกนะคะ ส่วนใหญ่จะเน้นหนักไปทางแบรนด์ที่เป็นหนังทั้งใบอย่าง Hermes หรือเฉพาะรุ่นของบางแบรนด์ที่ขายดีๆ เช่น LV NEVERFULL
งานเกรดพรีเมี่ยม (PREMIUM) งานเกรด 5A หรือบางทีเรียกว่ามิลเลอร์จีน จากที่แม่ค้าสัมผัสมาขอให้คำจำกัดความว่า มันคือเกรดเดียวกันค่ะ เกรดนี้จะเป็นงานที่มีการวางตำแหน่งของลายหรือซี่รี่นัมเบอร์ ใกล้เคียงกับของแท้ และใช้หนังแท้ในส่วนของหูหิ้ว สายสะพาย กุ้นขอบ ส่วนตัวกระเป๋าจะมีส่วนผสมระหว่างหนังแท้กับ PU ซึ่งตัวกระเป๋าจะมีความยืดหยุ่นจับแล้วให้ความรู้สึกคล้ายคลึงกับหนัง งานส่วนมากจะมาพร้อมกับถุงผ้า การ์ดการันตี บางรุ่นสามารถเทียบเท่ากับงานมิลเลอร์ ได้เลยก็มี และบางรุ่นยังใช้อะหลั่ยเดียวกับมิลเลอร์อีกตังหาก แต่ราคาของสินค้าก็จะสูงขึ้นไปตามคุณภาพของงานแต่ละชิ้นค่ะ
งานเกรดท๊อปพรีเมี่ยม คืองานที่คุณภาพสูงกว่างานพรีเมี่ยมเล็กน้อย มักใช้อะหลั่ยเดียวกับงานมิลเลอร์ หรือ มีการเก็บรายละเอียดต่างๆ เช่น การตัดเย็บ ฝีเข็ม คุณภาพของหนังเทียมที่นำมาใช้ในการผลิต สามารถเทียบเท่างานมิลเลอร์ได้ แต่เหตุผลที่ไม่เรียกมันว่างานมิลเลอร์ เพียงเพราะมันไม่ใช้หนังแท้100% ทั้งใบ แม่ค้าจึงไม่ย้อมขายลูกค้าแล้วเรียกว่างานมิลเลอร์ได้ค่ะ
งานเกรดเอ(A) คือ งานก๊อบปี้ที่ตัวงาน อะหลั่ย ผ้าซับใน โลโก้ ซิป จะปั้มทุกจุด มีถุงผ้าทุกใบ ราคาขาย ขึ้นอยู่กับความนิยมของยุคสมัยนั้นๆ ค่ะ พูดง่ายๆ ก็คือตามแฟชั่นนั่นเองค่ะ นิยมมากราคาก็สูง ส่วนเกรด AAA นั้น ความละเอียดของงาน อะไหล่ ผ้าซับใน โลโก้ ซิป จะดีกว่าเกรดเอค่ะ บางรุ่นเทียบเท่าพรีเมียมได้เลยค่ะกรดมิลเลอร์(MIRROR)หรืองานเอส มีความหมายในภาษาอังกฤษว่า 'กระจก' ดังนั้นงานมิลเลอร์จึงเทียบได้ว่าเหมือนส่องออกมาจากของแท้ คือเหมือนทุกอย่าง ไม่มีข้อแตกต่าง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราไม่สามารถที่จะหางานที่มีความเหมือนของแท้เลย 100% ได้แน่นอน แต่เราจะเรียกงานมิลเลอร์ว่าเป็นงานที่มองด้วยตาผ่านๆ แล้ว ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นของแท้หรือของก๊อป งานมิลเลอร์จะต้องนำของแท้มาเทียบเท่านั้น จึงจะสามารถมองเห็นความแตกต่างได้ งานมิลเลอร์จะแตกต่างกับงานพรีเมื่ยมที่ความหนาของหนัง สาย ข้อต่อ หรืออะหลั่ยต่างๆ ของตัวกระเป๋าค่ะ ขึ้นอยู่กับงานในแต่ละล็อตเนื่องจากแต่ละล็อตมาไม่เหมือนกัน บางครั้งงานพรีเมื่ยมก็สามารถเทียบเท่ากับงานมิลเลอร์ได้ก็มีค่ะ ขึ้นอยู่กับงานของแต่ละโรงงานที่ผลิตด้วยค่ะ แต่งานมิลเลอร์จะมาพร้อมถุงผ้า การ์ดการันตี ใบเสร็จ ซอง ถุงกระดาษ แทบทุกรุ่นค่ะ และที่สำคัญงานมิลเลอร์จะทำจากหนังแท้ทั้งใบหรือใช้วัสดุชนิดเดียวกับที่ของแท้ใช้ค่ะ
งานเกรดท๊อปมิลเลอร์หรืองาน Hi End คืองานที่แกะแบบออกมาจากของแท้ทุกอณู แทบจะไม่มีผิดเพี้ยน ราคาก็จะสูงกว่าเกรดมิลเลอร์อยู่พอสมควรเลยค่ะ แต่เกรดนี้จะมีไม่ทุกแบรนด์หรอกนะคะ ส่วนใหญ่จะเน้นหนักไปทางแบรนด์ที่เป็นหนังทั้งใบอย่าง Hermes หรือเฉพาะรุ่นของบางแบรนด์ที่ขายดีๆ เช่น LV NEVERFULL
งานเกรดพรีเมี่ยม (PREMIUM) งานเกรด 5A หรือบางทีเรียกว่ามิลเลอร์จีน จากที่แม่ค้าสัมผัสมาขอให้คำจำกัดความว่า มันคือเกรดเดียวกันค่ะ เกรดนี้จะเป็นงานที่มีการวางตำแหน่งของลายหรือซี่รี่นัมเบอร์ ใกล้เคียงกับของแท้ และใช้หนังแท้ในส่วนของหูหิ้ว สายสะพาย กุ้นขอบ ส่วนตัวกระเป๋าจะมีส่วนผสมระหว่างหนังแท้กับ PU ซึ่งตัวกระเป๋าจะมีความยืดหยุ่นจับแล้วให้ความรู้สึกคล้ายคลึงกับหนัง งานส่วนมากจะมาพร้อมกับถุงผ้า การ์ดการันตี บางรุ่นสามารถเทียบเท่ากับงานมิลเลอร์ ได้เลยก็มี และบางรุ่นยังใช้อะหลั่ยเดียวกับมิลเลอร์อีกตังหาก แต่ราคาของสินค้าก็จะสูงขึ้นไปตามคุณภาพของงานแต่ละชิ้นค่ะ
งานเกรดท๊อปพรีเมี่ยม คืองานที่คุณภาพสูงกว่างานพรีเมี่ยมเล็กน้อย มักใช้อะหลั่ยเดียวกับงานมิลเลอร์ หรือ มีการเก็บรายละเอียดต่างๆ เช่น การตัดเย็บ ฝีเข็ม คุณภาพของหนังเทียมที่นำมาใช้ในการผลิต สามารถเทียบเท่างานมิลเลอร์ได้ แต่เหตุผลที่ไม่เรียกมันว่างานมิลเลอร์ เพียงเพราะมันไม่ใช้หนังแท้100% ทั้งใบ แม่ค้าจึงไม่ย้อมขายลูกค้าแล้วเรียกว่างานมิลเลอร์ได้ค่ะ